ลัวะ (ละว้า)
- บุรีรัตน์ อุประ
- Jul 3, 2023
- 1 min read
Updated: Aug 13, 2023
ชื่อกลุ่มชาติพันธุ์ : ลัวะ
ชื่อเรียกตนเอง : ลัวะ, เลอเวือะ, ละเวือะ, ละว้า, ถิ่น, มัล, ไปร
ชื่อที่ผู้อื่นเรียก : ลัวะ, เลอเวือะ, ละเวือะ, ละว้า, ถิ่น, มัล, ไปร
ภาษาที่ใช้พูดและเขียน : ภาษาลัวะ เป็นภาษาในตระกูลออสโตรเอเชียติก (Austro-Asiatic) ตระกูลย่อย มอญ-เขมร (กลุ่มลัวะ ในจังหวัดน่าน กลุ่มภาษาขมุอิก ,กลุ่มลเวือะ ในจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน กลุ่มภาษาปะหล่องอิก ) ไม่มีภาษาเขียน
ประชากร
ปัจจุบันพบลัวะ ในจังหวัด คือ ลำปาง อุทัยธานี สุพรรณบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน และแม่ฮ่องสอน หมู่บ้านลัวะที่ใหญ่ที่สุด อยู่ที่บ้านบ่อหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ชนเผ่าลัวะอาศัยอยู่ใน ๙ ลัวะจังหวัด ๒๑ อำเภอ ๗๑ หมู่บ้าน จำนวนหลังคาเรือน ๓,๓๒๒ หลังคาเรือน ประชากรรวม ๑๗,๖๓๗ คน
ประวัติและที่มา
กลุ่มชาติพันธุ์ลัวะ เป็นกลุ่มชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่ตั้งถิ่นฐานเป็นรัฐก่อนอาณาจักรล้านนา สมัยก่อนพญามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อ ๑๓๐๐ ปีมาแล้ว ก่อนเม็ง/มอญจะนำความเจริญมาสู่ลุ่มน้ำปิง ถิ่นกำหนดที่แท้จริงไม่แน่ชัด เชื่อกันว่าอพยพมาจากตอนใต้ของไทย มลายา เขมร ๒๐๐๐ กว่าปีมาแล้ว –เชื่อสายเดียวกับว้าในพม่าและยูนนาน ในจีน ถิ่นฐานเดิม เวียงเจ็ดริน (เมืองเชษฐบุรี) – ดอยสุเทพ เรียกว่า “เมืองชวงไมย” ซึ่งภายหลังกลายมาเป็น “เชียงใหม่”
วิถีชีวิตและวัฒนธรรม
ชาวลัวะ มีอาชีพทางกสิกรรม ทำนา ไร่ สวน เลี้ยงสัตว์ จำพวกวัว ควาย หมู ไก่ หมูของชาวลัวะจะปล่อยให้หากินตามบริเวณบ้าน ถ้าฤดูข้าวเหลืองจึงจะนำมาขังไว้ในคอก เวลาว่างก็ทอผ้า ตำข้าว จักสาน เช่น กระบุง ตะกร้า ฯลฯ ฤดูแล้งชอบเข้าป่าล่าสัตว์ เมื่อได้สัตว์ป่ามาตัวหนึ่ง ผู้ล่าแบ่งเอาไว้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งนำไปมอบให้แก่ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านตีเกราะสัญญาณเรียกชาวบ้านแบ่งกันไปจนทั่วทุกหลังคาเรือน การปลูกสร้างบ้านเรือน ชาวบ้านจะช่วยกันทั้งหมู่บ้าน ไม่ต้องจ้าง
ศาสนา/ความเชื่อ
สำหรับชาวลัวะแล้วสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตคือความเชื่อและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงผีเพื่อความอุดมสมบูรณ์และการมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุข โดยอาจกล่าวได้ว่าประเพณีการเลี้ยงผีของชาวลัวะมีมากที่สุดใน
ประเสริฐ ชัยพิกุสิต (2542) ระบุว่า ชาวลัวะมีความเชื่อว่าแต่ละสถานที่มีผีสิงสถิตอยู่ เช่น ผีบ้านผีเรือน ผีฟ้า ผีภูเขา ผีเข้าประตูหมู่บ้าน เป็นต้น ซึ่งผีเหล่านี้มีทั้งผีดีและผีร้ายที่ในบางครั้งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุร้ายในหมู่บ้านหรือทำให้คนในหมู่บ้านเจ็บป่วยได้ พิธีเลี้ยงผีที่สำคัญของกลุ่มชาติพันธุ์ลัวะ แบ่งตามระดับของผีที่เกี่ยวข้องกับชุมชนเป็น 3 ระดับ คือหนึ่ง การเลี้ยงผีในระดับครอบครัว เป็นการเลี้ยงผีเรือนเพื่อปกป้องคุ้มครองลูกหลาน สองการเลี้ยงผีในระดับตระกูลหรือการเลี้ยงผีบรรพบุรุษ ในพื้นที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหน้าที่ของ “สะมาง” หรือตระกูลขุนเป็นผู้นำในการเลี้ยงผี และสามการเลี้ยงผีในระดับหมู่บ้าน เพื่อปกป้องดูแลหมู่บ้าน และพื้นที่เกษตรกรรม การเลี้ยงผี จึงเปรียบเสมือนหลักปฏิบัติในการดำเนินวิถีชีวิตของชาวลัวะ ถือเป็นแบบแผนและจารีตในการปกครองบ้านและชุมชน ชาวลัวะมีการติดต่อกับผีผ่านการเซ่นไหว้ด้วยการฆ่าสัตว์แล้วตัดชิ้นส่วนต่างๆ ให้ผีตามความชอบของผีแต่ละประเภท โดยสัตว์ที่นิยมนำมาฆ่าเซ่นไหว้ผีมีหลายประเภท เช่น วัว กระบือ สุนัข ไก่ เป็นต้น การเซ่นไหว้ผีจะทำพิธีกรรมโดยสมังและลำหรือผู้มีอาคมของหมู่บ้าน
ประเพณี/เทศกาลสำคัญ
โนกควายเนิอมหรือโนกสปัยซ คือ พิธีเลี้ยงผีหมู่บ้าน : ใช้เวลา 4-5 ปีหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของหมู่บ้านจึงจัดให้มีการเลี้ยงผีขึ้นครั้งหนึ่ง จุดหมายสำคัญในพิธีนี้คือการเลี้ยงผีหมู่บ้านให้ปกป้องดูแลคนในหมู่บ้านและช่วยให้ทำไร่ทำนาได้พืชผลอุดมสมบูรณ์
โนกซะมา คือ พิธีเลี้ยงผีเรือน : มักเลี้ยงเมื่อลูกหลานในครอบครัวอยู่ครบ การเลี้ยงเพื่อให้ผีบ้านผีเรือนดูแลปกป้องคนในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงและช่วยให้ทำการเกษตรได้ดี
พิธีเลี้ยงผีฟ้าผ่า : เมื่อเกิดฟ้าผ่าลงบริเวณใดของหมู่บ้าน หรือที่นา ที่ไร่ ชาวละว้าจะไม่ไปบริเวณนั้นจนกว่าจะขึ้นวันใหม่ เพราะเชื่อว่าเศษไม้ที่เกิดจากฟ้าผ่าหากโดนเท้าจะทำให้เท้าแตกได้
พิธีเลี้ยงผีบรรพบุรุษ : การทำพิธีเพื่อระลึกถึงปู่ย่า ตายาย เป็นพิธีกรรมในระดับครัวเรือน และสายตระกูล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการบอกกล่าวให้ผีบรรพบุรุษได้ช่วยปกปักรักษาลูกหลาน ให้อยู่ดีกินดี ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ
พิธีกรรมเลี้ยงผีบ่อเหล็ก : พิธีกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2562 กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน 2562 ได้มีพี่น้องชุมชนเผ่าลัวะ ในบ้านบ่อหลวง ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ นำโดยพ่อกำนันประเสริฐ ทาหล้า นายสุรชาติ ใจตุ้ย นายกเทศบาลบ่อหลวง นายจิรายุ งอกงาม นายก อบต.บ่อสลี (นายกกู้ชีพ) และชาวบ้าน 2 ตำบล ร่วมร้อยคน ได้จัดพิธีกรรมเลี้ยงผีบรรพบุรุษ หรือ “ศาลเจ้าบ่อเหล็ก” ณ บ้านแม่โถ ต.บ่อสลี ซึ่งในอดีตบริเวณแห่งนี้เป็นพื้นที่มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีอายุเก่าแก่มากกว่า 1500 ปี ที่มีการขุดแร่ เหล็ก เพื่อหลอมแร่ให้เป็นเหล็ก เพื่อที่จะทำเป็นเครื่องมือการเกษตร เช่น จอบ เสียม มีดดาบ อาวุธ
พิธีสำคัญของลัวะ/ละเวือะในรอบปี : ฉวีวรรณ ประจวบหมาะ และคณะ (2555) ระบุว่า ลัวะดอกแดง หรือ ปรัย มีพิธีกรรม “แองปรองอึกรอง” จะทำช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวหรือระหว่างเดือนธันวาคม - มกราคม ซึ่งเป็นพิธีสำหรับการเฉลิมฉลองและขอบคุณผีเจ้าที่สำหรับผลผลิต










Comments